Documentation of Oct 6

สุเทพ สุริยะมงคล

ชลธิรา          คุณสุเทพช่วยกรุณาแนะนำตัวเองสักนิด สถานภาพปัจจุบันนะคะ แล้วก็จากนั้นโยงไปถึงปี 2519 ว่าช่วงนั้นทำอะไร

สุเทพ            ผมชื่อสุเทพ สุริยะมงคล ปัจจุบัน (2543)

นี่ก็เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต บริษัทเอไอเอ ผมเข้ามหาวิทยาลัยปี 17 ก่อนที่ผมจะเข้ามหาวิทยาลัยปี 17 ผมก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สาขาด้านวิทยาศาสตร์ แล้วก็ช่วงนั้นมีการเรียกร้องขับไล่ทำฐานทัพ การต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น ตลอดจนมีภาวะที่ผมดูแล้วรู้สึก คือระหว่างที่เรียน ก็ตลกนะ บ้านเราเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ แต่ว่ามีประชาชนเข้าแถวกันซื้อข้าว เพราะข้าวของแพง นี่คือคำถามที่มีอยู่ในใจ ช่วงนั้นก็มีการ คือตัวเองเป็นคนสนใจอ่านหนังสือพิมพ์ สยามรัฐตอนนั้นค่อนข้างจะแรง บทวิจารณ์ของสยามรัฐ ของอาจารย์หม่อมราชวงษ์คึกฤทธิ์ รวมทั้งตาหมอดีด้วย ตาหมอดีคือ คุณสมัคร

เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย ผมก็ ปี 16 ผมก็อยากจะรู้ว่านักศึกษาเขาประท้วงกัน 14 ตุลา 16 ก็ไปร่วมกับเขาบ้าง เดินขบวนต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น ไปร่วมในขบวนต่อต้านต่าง ๆ  เผด็จการในช่วงนั้นคือจอมพลถนอม ก็เพียงแค่มีความรู้สึกว่าพวกนี้เป็นอุปสรรคต่อระบบประชาธิปไตย แต่ก็ไม่รู้อะไรมากมาย เมื่อเข้ามหาลัยปั๊บ ก็เข้าไปร่วมแจมกับพรรคพลังธรรม

ใจ               เข้ามหาวิทยาลัยไหน

สุเทพ            มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 17 เลขทะเบียนยังจำได้เลย 178236 คณะรัฐศาสตร์ ไปในธรรมศาสตร์ เนื่องจากช่วงนั้นนี่มีการตื่นตัวของประชาชนมาก ชาวนาก็มาร่วมชุมนุม เราก็สนใจเรื่องนี้อยู่ คือลึก ๆ แล้ว การเข้าไปแจมก็สงสาร เห็นชาวบ้านมา เราดูสายตา ดูลักษณะท่าทางเขานี่ คือน่าสงสาร ไม่เคยเจอ ทำไมต้องมาชุมนุมประท้วง ก็อยากช่วย ด้วยความรู้สึกแค่นั้นเอง ไม่ได้คิดมากมายขนาดว่าต้องเข้าร่วมขบวนปฏิวัติอะไร เข้าไปคลุกคลีมากขึ้นก็เข้าใจมากขึ้น ไปออกค่ายด้วย ก็เห็นปัญหาของชนบทด้วย ได้ไปใช้ชีวิตร่วมกับชาวนา เห็นเขากินปลาทูเค็ม 1 ตัว ทั้งครอบครัว เห็นเขากินกับข้าวประเภทผักพื้นบ้าน ลวก แล้วก็พริกแห้ง น้ำปลามะนาวนิดหน่อยเรารู้สึก เฮ้ยสังคมนี้มันมีคนที่มีชีวิตอยู่อย่างนี้นะ คือคนในเมืองไม่กินกัน ทำไมเขาลำบากมาก เราก็ค่อข้างจะอินกับปรัชญาของ “ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง ฉันจึงมาหาความหมาย ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย สุดท้ายเห็นกระดาษฉันแผ่นเดียว” รู้สึกมันมีความหมายกับชีวิตนักศึกษาของเรา คือไม่เพียงแค่อยากเรียนหนังสืออย่างเดียว อยากเป็นคนที่ช่วยเหลือสังคมด้วย จุดเริ่มต้นมีแค่นั้นเองครับ

ชลธิรา           ที่ตัดสินใจมาให้การวันนี้ อยากจะพูดเรื่องอะไรมากที่สุด เอาตรงประเด็นเลย

สุเทพ            ในเหตุการณ์ 6 ตุลา วันแรกที่ได้ข่าวคือวันที่ 4 ผมไปเรียน ก็มีการแสดงของชุมนุมนาฏศิลป์และการแสดงของธรรมศาสตร์ที่ลานโพ มีการล้อเลียนจากที่กรรมกรที่อ้อมน้อยถูกฆ่าแขวนคอ เอาประเด็นนั้นมาเล่น เสร็จแล้วรุ่งขึ้นอีกวันก็เป็นข่าวในบางกอกโพสต์ กับดาวสยาม ว่านักศึกษาจงใจหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เราก็งง เอ๊ะ เรื่องรามทั้งหมดนี่ เท่าที่ดูมาไม่เคยเข้าไปพาดพิงถึงเลย แต่ทำไมมีเรื่องนี้

ใจ               ดูละครกี่รอบ

สุเทพ            ผม เนื่องจากว่าเราเป็นผู้ปฏิบัติงาน เราก็ไม่ได้เข้าไปคลุกคลีดูตลอด งานของเรามี แต่เรารู้ว่าที่เขาเล่นคือเรื่องอะไรผมไม่ได้ไปนั่งดูประจำ แต่รู้ว่าเล่นอะไร

สมศักดิ์          ได้เห็นภาพที่แขวนคอไหมฮะ

สุเทพ            ไม่ได้เห็น แต่รู้ว่าเขามีเทคนิคในการที่จะทำ คือผมจะไม่ได้แน่นอนนะว่าตรงลานโพนั้น เขามีการแสดง แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปคลุกคลีมาก ไม่ได้ไปนั่งดู ก็อยู่ข้างเวที

ใจ               รู้จักคุณอภินันท์มั้ยฮะ

สุเทพ            คุณอภินันท์ก็เป็นสมาชิกของชมรมนาฎศิลป์ เขาเล่นด้วย

ใจ               ในวันนั้นรู้จักเขามั้ยครับ

สุเทพ            รู้จักครับ รู้จักหน้า

ใจ               นี่คือภาพถ่ายจากหนังสือพิมพ์ดาวสยาม นี่หน้าคุณอภินันท์หรือเปล่า

สุเทพ              ภาพจากหนังสือพิมพ์ดาวสยาม มีลักษณะใกล้เคียงหน้าของคุณอภินันท์ ส่วนคุณคนนี้ชื่อชาติ หลัง ๆ ไม่เคยเจอ

ชลธิรา           เล่าต่อ

สุเทพ            คือเมื่อเกิดเรื่องปั๊บ เช้าวันที่ 5 มีการประโคมขาวว่านักศึกษาจงใจหมิ่นพระบรมราชานุภาพ   เราก็งง คือในส่วนของการรับรู้ สิ่งที่รัฐบาลพูดในสมัยนั้น มีการประโคมข่าวออกมาหน้าหนังสือพิมพ์ หรือแม้กระทั่งสถานีวิทยุที่ออกมา กับข้อเท็จจริงที่เรารู้มา มันขาวกับดำ เรารู้มาอย่าง รัฐบาลว่าไปอีกอย่าง เดิมทีเราคิดว่ารัฐบาลมันต้องชอบธรรม แต่เมื่อเรามาเจอมันไม่ชอบธรรม การประโคมข่าวทางวิทยุยานเกราะ

ชลธิรา           วันที่ 5 อยู่ที่ไหนคะ

สุเทพ            ผมเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ พรรคพลังธรรม การแบ่งงานนี่ เราเข้าใจว่าจะต้องมีการปราบปราม แต่ว่าการปราบปรามนั้นไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ และสิ่งที่ขบวนการนักศึกษา เขาวางกันว่าจะมีเพื่อนส่วนหนึ่งให้ไปอยู่ข้างนอก ห้ามมาอยู่ข้างใน

ชลธิรา           เป็นการตกลงกันภายใน

สุเทพ            ผมได้รับมอบหมายให้อยู่ข้างนอก

ชลธิรา           มีวิธีการจัดแบ่งยังไงว่าคนประเภทไหนอยู่ข้างนอก คนประเภทไหนอยู่ข้างใน

สุเทพ            ตรงนี้ไม่ชัดเจนนะ เพราะอย่างผมเขามอบหมายให้ไปอยู่ข้างนอก เขาบอกถ้ามีการปราบปราม ให้ช่วยแจกแถลงการณ์ด้วย

(ช)              เขานะใครครับ ที่มอบหมาย

สุเทพ            คือในองค์กรของพลังธรรมก็มีกรรมการ มีผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมงานส่วนหนึ่งก็ไปเป็นกรรมกรของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาตอนนั้นประสาน สินสวัสดิ์เป็นรองนายกองค์การฝ่ายภายนอก ในส่วนของนักศึกษาที่อยู่ข้างในก็มีการแจกกันว่าถ้าเกิดการปราบปรามก็จะแจกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลไปตามจุดต่าง ๆ แต่ไม่คิดว่าการปราบปรามนั้นจะรุนแรงขนาดนี้ ผมบังเอิญไม่รู้โชคดีหรือเปล่าไม่ทราบ ปกติแล้วผมจะอยู่ที่นั่นตลอด คืนวันที่ 5 ผมท้องเสียรุนแรงมาก ก็กลับไปบ้านก่อน เลยรอดตาย เช้าวันที่ 6 ถึงได้รู้

เช้าวันที่ 6 พอรู้ปั๊บ ใจจะไปแล้วแต่ว่า………..(…เงียบ…)………………. ผมกับเพื่อนก็ไปตามจุดนัดหมายที่………หยุดเทป

(เริ่มเทปใหม่)

สุเทพ            ..ก็คือใต้ตึกองค์การบริหารมหิดล มีเรื่องอะไร พวกเราก็ไปเจอกันที่นั่น ก็ไปเจอที่จุดนัดหมายเช้าวันที่ 6  ตอนนั้นผมเป็นคนสั่งการเองว่าทุกคนแยกกันเลยนะ เวลาจำไม่ได้ ไม่แน่นอน เจ็ดแปดโมง ผมก็บอกว่า งั้นพวกเราแยกกันเลยนะ เพราะไม่รู้ว่าจะมีการปราบปรามที่นี่หรือเปล่า  ที่ใต้ตึกวันนั้นมีประมาณยี่สิบสามสิบคน แต่สิ่งที่เรารู้สึกว่า………ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นช่อง 3 …ช่องหนึ่งผมจำไม่ได้ชัดเจน แต่ว่ามีการถ่ายทอดช่องหนึ่ง ตอนนั้นผมกินข้าวอยู่กับสมศักดิ์ เกียรติ..ชัย ตอนเช้า นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ ถ้าจำไม่ผิดแถวสี่แยกวัดดวงแข กินไป ดูภาพไป

สมศักดิ์          จำได้มั้ยครับ ว่าก่อนหน้านี้นานมั้ยที่มีการพูดถึงที่ว่าต่อต้านรัฐประหาร

สุเทพ            มีพูดถึง แต่รูปธรรมที่แสดงออกคือแจกแถลงการณ์ ติดโปสเตอร์ เท่านั้นเอง  มันไม่มีอย่างอื่น ยังไม่เคยเห็นการสะสมกำลังอาวุธ ไม่มี ไม่เคยเห็นอะไร เพียงแต่ว่าการแจกโปสเตอร์ ออกแถลงการณ์ แล้วก็เอาโทรโข่งไปรณรงค์ตามที่ต่าง  ๆ ไปชี้แจงให้กบประชาชน แค่นั้นเอง

สมศักดิ์          ในขณะที่มีการชุมนุมในวันที่ 4 และต่อมาในวันที่ 5 คุณสุเทพได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อะไรในการชุมนุมครั้งนั้น

สุเทพ            คือตอนกลางคืนระหว่างที่มีการชุมนุมไฮปาร์ค ผมโดยหน้าที่แล้วไม่ใช่ข้างใน ให้อยู่ข้างนอก นอกที่ชุมนุม ไปชี้แจงชาวบ้านตามชุมชนต่าง ๆแต่พอเสร็จหน้าที่แล้วก็เข้าไปแจม แต่บังเอิญวนนั้น ผมท้องเสียอย่างที่บอก ก็กลับบ้าน

ใจ               เจตนาหลังของการชุมนุม เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 คืออะไร

สุเทพ            ก่อนหน้าที่จะชุมนุมวันที่ 4 มีเรื่องเกี่ยวกับจอมพลถนอมบวชเข้ามา ก็มีการคัดค้าน แล้วการคัดค้านนั้น ทำให้กรรมกรอ้อมน้อยถูกฆ่าตายต่อมา ถูกแขวนคอ

ใจ               กรรมกรอ้อมน้อยหรือพนักงานการไฟฟ้าภูมิภาคนครปฐม

สุเทพ            ผมตอบได้ไม่ชัดเจนฮะ รู้แต่ว่ามีคนถูกแขวนคอ 2 คน แล้วเอาตรงนั้นเป็นประเด็นที่ชุมนุมนาฏศิลป์และการละครธรรมศาสตร์ เอามุขนั้นมาเล่นที่ลานโพ

ใจ               ที่นักศึกษาชุมนุมที่ธรรมศาสตร์มีเจตนาที่จะก่อการกบฏ ล้มล้างสถาบัน

สุเทพ            ผมพูดได้เลย ไม่มี……ขอยุติเทปก่อน

เริ่มเทปใหม่

ใจ               ถ้าเราสังเกตดู สื่อมวลชนกับหนังสือพิมพ์ว่าใครไปเยี่ยมจอมพลถนอมที่วัดบวร คุณสุเทพคิดว่าเราจะได้ความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลามากขึ้นมั้ยครับ

สุเทพ            ความเข้าใจ ผมว่าน่าจะมองได้ว่าการเทคแอ็คชั่นอย่างนั้นแสดง..บ่งบอกว่าเขายือยู่ในฝ่าย  การพูดออกมาอย่างนี้ก็คือเป็นการเสริมกระแสว่านักศึกษาไม่ดี ผมพูดได้แค่นี้  เพราะมันปฏิเสธไม่ได้ขณะที่เรากำลังเรียกร้องต่อต้าน คนหนึ่งมาโผล่ปั๊บ แล้วบอกว่านี่ระวังคนใจร้ายมาเผาวัด ……()

ชลธิรา           ขออนุญาตโยงประเด็นนิดหนึ่ง สมมติว่า….ออฟเรคคอร์ด ก่อนนะ……..เสียงปิดเทป

เริ่มเทปใหม่

สมศักดิ์          อยากจะถามคุณสุเทพว่า คิดว่าขบวนการนักศึกษาในขณะนั้นมีเป้าหมายอันใดหรือไม่ในการที่จะล้มล้างสถาบันหรือว่ามีทัศนะอย่างไรต่อสถาบัน ที่คุณสุเทพประเมิน

สุเทพ            ผมมองว่า เรื่องล้มล้างสถาบัน ผมคิดว่าไม่ได้มองไกลขนาดนั้น ในช่วงนั้น เพียงแต่ว่า ไอ้การออกมาให้สัมภาษณ์แบบที่ผมพูดนั้น เราก็รู้สึกมันแปลก ๆ เรื่องคิดจะล้มล้าง มองทั้งขบวนก็ไม่เห็น คนส่วนอื่น ผมไม่รู้นะ แต่คิดว่าไม่มีขนาดนั้น

ใจ               คุณสุเทพมีส่วนในหน่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ในขบวนการนักศึกษา

สุเทพ            คือตั้งแต่ผมอยู่มหาวิทยาลัย ผมก็ทำงานอยู่กับพรรคพลังธรรม พรรคพลังธรรมเป็นพรรคที่เติบโตมาก เป็นพรรคที่ก่อตั้งองค์การบริหารสองสามปีหลังก่อนเกิดเรื่อง ผมเล่านิดหนึ่งคือว่าช่วงปี 17 ดูเหมือนว่ามีนักศึกษาส่วนหนึ่งทำงานคลุกคลีกับกรรมกร เพื่อต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรม ก็มีนักศึกษาส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้คัดค้านส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจ หลัง ๆ พรรคพลังธรรมเราอยู่ใต้ตึกเอที เราก็เดินแนวทาง…..เปิดห้องสมุด หน้าพรรคเราก็จะหาเงิน เอาหนังสือมาขาย เพื่อเอาเงินมาสนับสนุน ได้หนังสือมาก็เอาหนังสือไปไว้ในห้องสมุด ห้องสมุดเดิมที่ผมเข้ามาปี 17 เป็นตู้กับข้าว 1 ใบ มีหนังสืออยู่ยี่สิบสามสิบเล่มให้อ่าน เมื่อผมเข้าไปนะ ตู้ใหญ่ขึ้น นักศึกษามาช้บริการยืมหนังสือทีเรียกว่าก้าวหน้าไปประกอบการศึกษา วันหนึ่งเฉลี่ยประมาณสามสิบถึงสี่สิบราย ปีสุดท้ายก่อนที่จะเกิดเรื่องคือปี 19 ปรากฏว่าในธรรมศาสตร์ปี 1 ปี 2 ปี 3  พรรคพลังธรรมกวาดเรียบเลย สภานักศึกษากวาดหมดเลย เหลือปี 4 ปีเดียวที่ขาด 4 ถึง 5 คน นี่คือกระแสที่ในส่วนของพรรค ในมธ. ผมว่าถ้ามองในส่วนผู้ปกครอง ถ้ามองว่าพรรคพลังธรรมเป็นฝ่ายซ้าย ก็ดูเหมือนน่ากลัว

สมศักดิ์          บทบาทและความเกี่ยวข้องของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับองค์กรนักศึกษาในขณะนั้นยังมีอยู่มากหรือน้อยเพียงใด แล้วคิดหรือไม่ว่ากรณีที่เกี่ยวข้องกับการนำไปสู่เหตุการณ์ 6 ตุลา

สุเทพ            ผมไม่คิดว่าพคท. จะมีบทบาทมากต่อขบวนการนักศึกษา นี่ก็ไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับเขา มีอย่างหนึ่งระหว่างการต่อสู้ของประชาชน เราเปิดฟังวิทยุ เพื่อนมันก็ กลางคืนบนตึกอมธ. เปิดสปท. ฟัง ก็เอ๊ะ พูดตรงใจเรา สิ่งที่เขาพูดคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นะ  ไปด้วยกันได้ แต่ฟังฝ่ายรัฐบาลพูด มันไม่ใช่ คือหมายถึงว่าสปท. เป็นพันธมิตรกันทางจิตใจทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร

สมศักดิ์          แล้วองค์กรจัดตั้งของพคท. มีหรือไม่ในขบวนการนักศึกษา

สุเทพ            ในช่วงท้ายผมเชื่อว่ามีบ้าง ในส่วนที่มีบ้างจะมีบทบาทที่ไปครอบงำทั่วทั้งขบวนการ ยกตัวอย่างในกล่มของพรรคพลังธรรม แคยได้ยินมีคนมาชวนผมว่าจะพาไปเที่ยวทางใต้ เนื่องจากผมไม่รู้เรื่อง ผมก็บอกเออ..ไปเที่ยวใต้กัน แต่ปรากฏว่าทริปนั้นยกเลิกไป แต่มารู้ทีหลังว่า อ๋อ พาคนไปดูกองทัพที่…..ไปกันทีเป็นกลุ่ม

(ช)              ช่วงไหน

สุเทพ            ช่วงปลายแล้ว ช่วงปี 19 ที่มันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

(ช)              ก่อนหรือหลัง

สุเทพ            หลังสิครับ เอ๊ย ก่อนสิ ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลา

ใจ               ในงานโฆษณาที่ได้ทำ ได้ประเด็นอะไรบ้าง เวลาทำในนามพรรคพลังธรรม

สุเทพ            พรรคพลังธรรมนี่ก็จริง ๆ กิจกรรมหลักที่เราทำ คือเนื่องจากเราอยู่ในส่วนขององค์การบริหาร เริ่มแรกนี่ก็วันแรกที่ปฐมนิเทศพาน้องใหม่ เพื่อนใหม่ไปอบรม รับเพื่อนใหม่กันแล้วก็หลัง ๆ ในเรื่งเกี่ยวกับประเพณีฟุตบอลจุฬาธรรมศาสตร์ ก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้าง ให้เรียบง่ายและมีเรื่องเกี่ยวกับการเมืองเข้าไปแทรก และในส่วนของพรรคเองก็มีสิ่งพิมพ์ขาย แล้วก็มีฝ่ายสาราณียากรทำหนังสือกัน แล้วส่วนหนึ่งก็เอามาขาย

ใจ               มีข้อเสนออะไรให้กับสังคมไทยในตอนนั้น

สุเทพ            ไม่มีอะไรที่มันชัดเจนหรอกครับ ส่วนใหญ่ก็เอาข้อเขียนของคนเก่า ๆ มาพิมพ์เผยแพร่

ใจ               ถ้าฟังนักการเมืองบางคนพูดถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา เขาจะมองว่า ขบวนการนักศึกษาที่ชุมนุมที่ธรรมศาสตร์มีข้อเรียกร้องมีการกระทำที่ทำให้ประชาชนเองรับไมได้ ก็เลยก่อให้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา ไม่ทราบว่าในความเห็นของคุณสุเทพ นักศึกษาทำอะไรมั้ยที่พอจะมองว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนทนไม่ไหวแล้ว

สุเทพ            ไม่มีประชาชนทนไม่ไหวรับไม่ได้หรอกครับ มีคนกลุ่มหนึ่งแค่นั้นเองปลุกปั่นมา เข้ามาควบคุมกระทิงแดง ควบคุมลูกเสือชาวบ้าน กระทำการ ผมคิดว่าพวกนี้คงจะมีขบวนการว่าจ้างกัน โดยส่วนตัวผมคิดว่าอย่างนั้นนะ ถ้าเราดูจากในองค์กรนักศึกษา ไม่ว่าเหตุการณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา หรือพฤษภาก็ตาม ความรู้สึกของพวกเราก็คือว่า เราต้องมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อเท็จจริง เพราะว่าการรวมตัวของเขา ไม่ได้เป็นการรวมตัวเพื่อความสำนึก เพื่ออุดมการณ์ เขาถูกว่าจ้างมาเป็นจ๊อบ ๆ ไป ถูกอะไรมาผมก็ไม่ทราบ แต่ว่าผมเชื่อว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมากมาย

ใจ               คุณสุเทพมีประสบการณ์โดยตรงกับพฤติกรรมของพวกระทิงแดง ลูกเสือชาวบ้านก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาหรือเปล่า

สุเทพ            ผมเคยครั้งหนึ่งนะ ไม่รู้กลุ่มอะไร ไปติดโปสเตอร์ แล้วโดน

ใจ               โปสเตอร์นี่เรื่องอะไร

สุเทพ            จำไม่ได้ฮะ ผมติดโปสเตอร์มันมากเรื่อง จำไมได้เลยฮะ แต่ถ้าจำไม่ผิดจะแถวตลาดบางโพ ไม่แน่ใจ  ไปโดนทุบทุบข้างหลัง

(ญ)             หมายความว่าถูกทำร้ายร่างกาย แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครทำ

สุเทพ            ไม่รู้ฮะ เพราะว่าเราก็ไม่ได้คิดจะต่อสู้ด้วย กลางคืนฮะ ส่วนใหญ่เราจะติดโปสเตอร์หลังเที่ยงคืน ตอนนั้นก็มีคุณยุทธขับรถเชฟโรเล็ตตามพวกเราไป เอาโปสเตอร์ไปติดที่ต่าง ๆ

(เสียงปิดเทป)

เริ่มเทปใหม่

ใจ               คุณสุเทพเล่าว่ามีนักศึกษาบางส่วนที่คิดไปเยี่ยม พคท. ทางใต้ คำถามคือว่าว่านักศึกษาส่วนนี้กลับมาที่กรุงเทพแล้วตั้งใจจะใช้กำลังอาวุธในการเปลี่ยนแปลงสังคมหรือไม่ หรือเพียงแต่ว่าไปเยี่ยมพคท.

สุเทพ            ตอบได้เลยว่าผมไม่เห็นมีเหตุการณ์ตระเตรียมเรื่องนี้เลยนะฮะ เรื่องกำลังอาวุธ ไม่เคยเห็น แต่เคยเห็นเพื่อนที่ทำงานในหน่วยรักษาความปลอดภัย ตอนนี้เขาเสียชีวิตไปแล้ว คุณป้อมเพชร แกชอบเอาปืนมากระบอกหนึ่งเล็ก ๆ อยู่ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย แล้วก็เคยทราบมาว่า แต่ไม่เคยเจอด้วยตัวเองนะ ทราบมาแต่ว่าพี่โป๊ะ วัชรพันธ์มีปืนเพราะว่าเขาเป็นลูกนายตำรวจ คือหมายถึงเขาอาจจะบางอย่างที่ตำรวจไม่กล้าเล่นงานเขา ก็ไม่เห็นว่ามีการสะสมอะไรมากมาย มันก็ธรรมชาติคนน่ะ ถูกกลั่นแกล้ง ถูกทุบตี ถูกกระทำตลอด เราก็ต้องหาทางป้องกันบ้างแต่ว่าไม่ได้เป็นขนาดต้องเตรียมกำลังอาวุธที่จะมาโค่นรัฐบาล ไม่มี และไม่คิดว่ามีด้วย

ใจ               คุณสุเทพฟังสถานีวิทยุยานเกราะบ้างมั้ยฮะ

สุเทพ            ฟังบ้าง ก็รู้สึกปลุกปั่น

ใจ               ยังไง

สุเทพ            เขาก็พูดในเรื่องของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีอุโมงค์ใต้ดินบ้าง สะสมอาวุธ เขาพูดทำนองนั้น

ชลธิรา           ในฐานะที่เป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ ท่าทีของผู้บริหาร ของมธ. ในช่วงนั้น เช่นท่านอาจารย์ป๋วย อ.เสน่ห์ รองอธิการบดีฝ่ายต่าง ๆ เป็นยังไงบ้าง

สุเทพ            ผมว่าท่า อ. ป๋วย เป็นผู้ใหญ่ที่พยามจะเข้าใจเรา ซึ่งบางทีเราไม่เข้าใจท่าน หลายครั้งเราก็มองว่าท่านขวาง ท่านพยามที่จะ ผมก็ไม่ได้ว่าท่านอ.ป๋วยเป็นศัตรูนะ แต่มองว่าเอ๊ะ อาจารย์อาจจะอายุมากแล้ว พยามที่จะตาม ๆ เบรก ๆ เราไว้ หรืออะไรทำนองนั้น ไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่คัดค้าน

ชลธิรา           ที่ว่าปราม เบรก ๆ นี่ ท่านปรามเรื่องอะไร

สุเทพ            คือหลายครั้งเวลานักศึกษาทำอะไร  คือบางทีโดยหน้าที่การงานของอาจารย์ต้องบริหารมหาวิทยาลัยให้เรียบร้อยแต่ในส่วนของเราบางทีชาวนาเข้ามา หรือว่าการชุมนุม เพื่อให้การควบคุมดูแลก็พยามให้อยู่ในมหาวิทยาลัยเพราะในมหาลัยมีกำแพง เพื่อควบคุมการเข้าออก ดูแลได้ แต่มันก็ไปขัดกับความเป็นระเบียบเรียบร้อยของมหาวิทยาลัย

(ญ)             ในทัษนะของคุณสุเทพที่บอกว่า  อาจารย์ไม่สนับสนุนนั่นก็คือว่า นักศึกษามองอาจารย์ไม่ใช่พวกตัวเอง

สุเทพ            ไม่ใช่พวกตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ศัตรู

(ญ)             ซึ่งตรงนี้จะมีความแตกต่างกันกับฝ่ายทางราชการ ที่มองว่าอาจารย์ไปสนับสนุนฝ่ายนักศึกษา

สุเทพ            จริงๆ ไม่ใช่หรอกฮะ คือไม่ได้เป็นศัตรู แต่ก็พยามที่จะเบรกเรา ดีงไว้หน่อย ทำนองนั้น

ใจ               คุณสุเทพมองว่ามีนักการเมืองคนไหนบ้างมั้ยที่มีส่วนในการก่อให้เกิดการนองเลือด การปลุกปั่นสื่อมวลชน หรือว่าอะไรทำนองนี้

สุเทพ            ผมไม่ได้เห็นด้วยตัวนะ ดูจากข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ก็เห็น ก็มีคุณสมัคร แล้วเขาก็ได้ดิบได้ดีด้วย หลังจากเกิดเหตุการณ์ คือการพูดจาของคุณสมัครมัน ..พวกเราเรียกร้องประท้วง ก็หาว่าพวกเราใช้กฏหมู่บ้าง

ใจ               ที่ไม่ใช่นักการเมืองคนอื่นมั้ยฮะหรือผู้นำสังคม

สุเทพ            ผู้นำสังคมในช่วงนั้น ถ้าเป็นพวกนักคิดที่รู้สึกว่าทางเราจะชอบมากหน่อย คือพี่อนุช อาภาภิรม ข้อเขียนต่าง ๆ

ใจ               คนที่พูดถึงนี่ จะมีการยุยงให้มีการต่อสู้ แล้วก่อให้เกิดเหตุการณ์นองเลือด

สุเทพ            ไม่ถึงขนาดนั้น คนที่พูดถึงนี่ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องชีวทัศน์  คนเราเกิดมาเพื่ออะไร จะปลูกฝังชีวทัศน์ให้เราเกิดแนวทางต่อการมีชีวิตอยู่ เพื่ออะไร เพื่อสังคม แบบนั้นมากกว่า แต่ไม่ได้พูดในแง่การต่อสู้ ไม่มี

ชลธิรา           ในพลังธรรม มีใครเป็นแกนบ้าง แล้วก็คิดว่าแกนเหล่านี้ได้รับอิทธิพลขอบข่ายความคิดจากใครบ้าง จากนักคิดคนไหนที่เคยเอ่ยชื่อมา หรือว่าได้รับอิทธิพลจากการอ่านหนังสือ ถ้าอ่านอ่านประเภทไหน หรือว่ามีบุคคล มีองค์กรโดยตรงใดเป็นแกนนำของพรรคพลังธรรม

สุเทพ            ในพรรคพลังธรรม ปี 17 ที่ผมเข้าไป มี ผมไม่ได้อยู่ในส่วนของยุวชนสยาม แต่เพื่อนที่เคยอยู่ยุวชนสยามเขามีความคิดที่จะจัดตั้งกลุ่มอิสระ กลุ่มยุวชนสยามเข้าแจมกับพวกสังคมศาสตร์ปริทัศน์ เป็นนักกิจกรรมนักเรียน ทำกิจกรรม เพราะงั้นพรรคพลังธรรม มีองค์การบริหารที่อมธ. เวลาได้อยู่ในอมธ. คุณประสาน สินสวัสดิ์เขาก็ลงมาคลุกคลีกับพวกเราอยู่ …พี่… พี่จี๋ สามคนที่ผมเห็นอยู่ในเทอมของพรรค ส่วนพวกผมไปทีหลัง แล้วค่อนข้างจะมีบทบาท คือหลังจากนั้นนี่พวก คุณวิจิตร ศรีสังข์ เขาก็ไปเป็นนายกองค์การ คำนูณ สิทธิสมาน เป็นสาราณียากรพวกนี้เข้าไปทำงานเกี่ยวกับองค์การ ….ข้างล่างนี่ก็เดิมทีอย่างที่ผมเล่าว่าห้องสมุดนี่ มีตู้กับข้าวหนึ่งใบ แล้วก็มีสมุดประมาณสามสี่สิบเล่ม แล้วก็ได้พัฒนากลายเป็นห้องสมุดที่ซื้อตู้เข้ามาใหม่ แล้ววางหนังสือเป็นพันเล่ม วันหนึ่งมีคนใช้บริการสามถึงสี่สิบราย เป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีมากเลย

(ช)              พรรคพลังธรรมเป็นพรรคของนักศึกษา แล้วก็ได้มีส่วนเอกสารความคิดที่เกี่ยวกับสังคมนิยมบ้างมั้ย

สุเทพ            เป็นพ็อกเก็ตบุ๊คนะ ไม่มีชีท ไม่มีอะไรเป็นเรื่องลับ เป็นพ็อกเก็ตบุ๊คโฉมหน้าศักดินาไทย

ชลธิรา           ลองช่วยเอ่ยชื่อหนังสือที่มีอิทธิพลทางความคิด และก็อยู่ในห้องสมุดของพรรคพลังธรรม ที่มีคนยืมไปใช้กันหนาแน่น

สุเทพ            อันนี้ผมตอบไม่ได้ครับ เพราะผมไม่ได้อยู่ในส่วนนั้น มีเจ้าหน้าที่คุณสารยา เขาอยู่ในส่วนนั้น บันทึกไว้เลยว่าใครมายืมอะไร

ชลธิรา           คุณสุเทพเองอ่านหนังสืออะไรบ้างในช่วงนั้น

สุเทพ            ผมก็เป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านนะ  โฉมหน้าศักดินาก็อ่าน แต่ไม่ได้อ่านอะไรเป็นเรื่องเป็นราว

ชลธิรา           หนังสือปกแดงอ่านบ้างหรือเปล่าคะ พวกสรรนิพนธ์เหมาเจ๋อตง

สุเทพ            ปกแดง ก็ได้มีโอกาสอ่าน แต่ไม่ได้อ่านจริงจัง มีเขาทำออกมาขาย เป็นคติพจน์เล่มเล็ก ๆ ออกมา ก็แปลก

ชลธิรา           ในฐานะที่ทำงานโฆษณา คิดว่าหนังสือพวกนี้มีส่วนไปนำความคิดของนักศึกษาในขบวนการนักศึกษาในยุคนั้นมากน้อยแค่ไหน

สุเทพ            ในช่วงนั้นได้มีความพยายามวิเคราะห์สังคมไทย เรื่องศักดินา ซึ่งผมไม่แนใจว่าการวิเคราะห์นั้นเอาโมเดลของจีนมาสวมใส่ แล้วมาแต่งตัวแบบบ้านเรา คือการวิเคราะห์หมายถึงว่าเวลาคุยกันมีการพูดถึงว่าระบบมันเป็นแบบไหน………………..ช่วงนั้นหนังสือฝ่ายซ้ายออกมาเยอะแยะเลย ที่ขุดออกมาขาย คือการวิเคราะห์ก็คือตอนนั้นสมัยนั้นชาวนาส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินของตัวเอง ต้องเช่าที่ดิน ซึ่งเจ้าของที่ดินคือพวกศักดินา ขณะเดียวกันประเทศเราตอนนั้น ไอ้ที่ว่ากึ่งเมืองขึ้นก็คือ มีการมาตั้งฐานทัพ

สมศักดิ์          อยากจะเรียนถามว่าหนังสือเล่มเล็ก ๆ จำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับสังคมนิยม พิมพ์ออกมาจากพรรคพลังธรรม จริงหรือไม่ครับ

สุเทพ            พรรคพลังธรรมพิมพ์นิดเดียวเองนะ ตอนนั้นมีอยู่เล่มหนึ่งแนวทาง 14 ตุลาจงเจริญที่พิมพ์ออกมาเล่มสีแดง ๆ ออกมาจากองค์การ แล้วก็มีเพื่อนส่วนหนึ่งก็แย้งว่า จงเจริญได้ยังไง 14 ตุลาเกิดขึ้นมา ประชาชนเสียหาย แต่ว่าผลของความเสียหายโค่นรัฐบาลลงไป ก็ไม่ขายแล้วให้ไปเผา

(ช)              เสียงถามไม่ชัด

สุเทพ            ก็ตอนนั้นมีการมองว่าคุณวิจิตร ศรีสังข์กับคุณคำนูณ สิทธิสมานไปอยู่ใกล้ชิดกับคุณผิน บัวอ่อน ซึ่งผมก็ไม่รู้จักตอนนั้น ผิน บัวอ่อนคือใคร ตอนหลังก็อ๋อ เป็นกรรมการ

กลางพคท. ……ผมก็ไม่รู้เขาเป็นใคร มีความสัมพันธ์ยังไงก็ไม่รู้ ก็แปลกดี ก็ยังงง แล้วให้เผา เราเป็นไปเผาเองนะ

ชลธิรา           เผานี่หมายถึง

สุเทพ            เผาหนังสือ…ผมไม่รู้

(ช)              เรียกว่าในช่วงนั้นคุณสุเทพทำงาน ใครให้ทำอะไรก็ทำ

สุเทพ            ไม่ถึงขนาดนั้น แต่รู้สึกว่าในส่วนของอมธ. คุณวิจิตร ศรีสังข์เขาอยู่อมธ. ซึ่งกับส่วนของพรรคค่อนข้างจะห่างกันคือคล้าย ๆ ว่า

ชลธิรา           ธงชัย วิจจะกูลกับสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลอยู่พรรคพลังธรรม

สุเทพ            ใช่ครับ ใช่  ธงชัยเข้าปี 18 สมศักดิ์เข้าปี 19

ชลธิรา           ภายในพรรคพลังธรรมมีการต่อสู้กันทางความคิดหรือแนวทางการเมืองมั้ย เวลาประชุมกรรมการของพรรคพลังธรรม

สุเทพ            มีครับ มี

ชลธิรา           แสดงว่ามันก็ไม่ใช่มีสายผิน บัวอ่อนสายเดียวสิคะ

สุเทพ            สายผิน บัวอ่อนนี่

ชลธิรา           ถ้ามีการต่อสู้ทางความคิดทางการเมืองหมายความต้องมีมากกว่าหนึ่งสาย

สุเทพ            คือช่วงนั้นคำนูณ สิทธิสมานเขาเป็นสาราณียากร ถ้าจำไม่ผิดนะ………..เสียงถามแทรก ฟังไม่ชัด………..ผมก็ไม่ค่อยได้คลุกคลีนะ ผมอยู่ข้างล่าง แต่มีประสาน สินสวัสดิ์ เขามาคลุกคลีอยู่

สมศักดิ์          ตำแหน่งอะไร

สุเทพ            เขาเป็นรุ่นพี่ 1 ปี เป็นนักกิจกรรม ไม่มีตำแหน่ง แต่ว่าอยู่ในอมธ. เขาเลยมาคลุกกับพวกเรา บังเอิญเขามีเพื่อนนักเรียนสมัยอยู่บางแสน เป็นโรงเรียนกินนอน ไปสัมมนาก็เจอกัน ชวนกันมาทำงานกิจกรรมกบพรรคพลังธรรม

ชลธิรา           ตอนนที่คุณสุเทพบอกว่าได้รับหน้าที่ว่าถ้ามีปัญหาอะไร ถูกปิดล้อม ถูกปราบปรามเป็นฝ่ายอยู่ข้างนอก นั่นย่อมหมายความว่าได้มีการประเมินสถานการณ์แล้วเหมือนกันว่าจะมีความรุนแรงในเชิงประหัตประหารเกิดขึ้น

สุเทพ            ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น เราไม่เคยคิดถึงว่าป้านเมืองนี้จะมีการเข่นฆ่า

ชลธิรา           ประเมินไม่ถึง

สุเทพ            ครับ แต่สิ่งที่เราคิดคือว่า มีระเบิดตูม มีคนบาดเจ็บบ้าง อะไรแบบนั้น ไม่เคยคิดว่าจะมีกำลังทหารปราบขนาดนี้

ชลธิรา           เพราะฉะนั้นการชุมนุมประท้วงทุกครั้ง รวมทั้งช่วงวันที่ 4 วันที่ 5 นี่ ถ้าดูจากคำให้การ คุณธงชัย คุณสมศักดิ์อยู่ที่เวทีตลอด นั่นหมายความว่าพรรคพลังธรรมกุมการนำของการชุมนุมประท้วงหรือเปล่า

สุเทพ            อย่าเข้าใจอย่างนั้น คือการนำบนเวทีต้องการคนที่พูดเป็น พูดเก่ง ไม่ใช่ว่ามีคนเป็นผู้นำอยู่ คนที่พูดเป็น พูดเก่ง อยู่ข้างบนฮะ ไม่มีสคริปท์ ไม่ได้กำหนดแนวทางว่า ต้องพูดเรื่องนี้ ๆ นะ ไม่มีครับ

ชลธิรา           หมายความว่าการชุมนุมประท้วงไม่มีการนำ

สุเทพ            ใช่ ทุกครั้งไม่มีอย่างนั้น ถึงขาดที่ว่ากำหนดสคริปท์ แต่ละคนก็ว่าไปตามสไตล์เขา

ชลธิรา           แล้วการดำเนินการประท้วงละคะ คิดว่ามีการนำมั้ย

สุเทพ            ก็มีฮะ ตอนนั้นก็มีอมธ. และศูนย์กลางนิสิตฯ

ชลธิรา           โดยเป็นลักษณะประชาธิปไตย มีมติร่วมกัน

สุเทพ            ครับ มีศูนย์กลางนิสิตเป็นแกนนำ

ชลธิรา           หมายความศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยเป็นแกนนำพาความเคลื่อนไหวทั้งหมด

สุเทพ            ใช่ครับ

(ช)              อยากถามความเห็นว่าการคัดค้านจอมพลถนอม เพื่อรักษาผลพวงของ 14 ตุลาใช่หรือเปล่า มันเกี่ยวข้องกันมั้ย

สุเทพ            แน่นอนเลยครับ

ชลธิรา           อยากจะทิ้งท้ายอะไรมั้ยคะ

สุเทพ            ผมว่าหลายคนประเมินว่าในเหตุการณ์นั้น พคท. มีบทบาทมากน้อยขนาดไหน ถ้าพูดถึงประสบการณ์โดยตรงของผม ผมคิดว่าไม่มีบทบาท อาจจะมีการเข้ามาแทรกซึมบ้าง แต่ถึงข้นครอบงำขบวนการ ผมว่าไม่ถึงขนาดนั้น เขาเริ่มมีบทบาทในตอนหลัง ทีว่าเริ่มมีบทบาทก็คือ โดยส่วนตัวแค้น ก็แค้น แต่รู้สึกตัวเองไม่ปลอดภัย ผมเข้าป่าไปทุกอย่าง นาฬิกา เงินทองให้เขาหมดเลย ผมไปตัวเปล่า

ชลธิรา           ตอนที่ตัดสินใจเข้าป่า เข้าไปทำไมคะ

สุเทพ            ตอนนั้นผมคิดเรื่องการต่อสู้เรื่องกำลังอาวุธแล้ว การต่อสู้ธรรมดา เรียกร้องเดินขบวนขอความเป็นธรรม มันก็ต้องถูกปราบปรามแน่ ๆ ถ้าถามว่าผมเป็นชอบความรุนแรงมั้ย ผมเกลียดที่สุด ชอบอยู่สงบ ๆ ไม่มีเรื่องกับใคร แต่เมื่อวันหนึ่งที่ผมต้องถูกบังคับให้เลือกทางนั้นทางเดียว สังคมไม่เปิดโอกาสให้ มันก็เหมือนเชือกฟางสุดท้าย อยู่กลางทะเลแล้ว มีอะไรคว้าได้ก็คว้าก่อน เมื่อเราอยู่ตรงนั้น ความเป็นอิสระ เรามี ความคิดเรามี เราไปเจอที่นั่น เมื่อไม่ใช่ในอุดมติที่เราต้องการ เราก็หลุดออกมา

(ช)              ประเด็นที่ออกจากพคท.

สุเทพ            ก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง

สมศักดิ์          ขอบคุณมากที่สละเวลา ขอจบก่อนครับ